Ladawan พระราม 2 อาณาจักรแห่งการอยู่อาศัย บนทำเลพระราม 2
Brand History
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าท์ ได้เริ่มต้นธุรกิจประเภทค้าอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี หัวหิน ภูเก็ต มหาสารคาม และอยุธยา จนถึงปัจจุบัน บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ที่เม่ือพูดถึงแลนด์ฯ ก็ต้องตามมาด้วยคำว่าบ้านคุณภาพ ซึ่งถือเป็นปรัชญาการทำบ้านของแลนด์ฯ คือมุ่งเน้นส่งต่อบ้านคุณภาพแก่ผู้บริโภค ด้วยการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ผ่านการวิจัยจนแน่ใจว่าบ้านทุกหลังจากแลนด์ฯ จะเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเป็นบ้านที่ทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ห้องรับแขกที่โซนด้านหน้าของบ้าน จัดไว้แบบเป็นทางการ ด้วยความอลังการของงานออกแบบที่เป็นโถงสูงแบบ Double Volume สำหรับรับรองแขกก่อนจะพาเข้าสู่ส่วนอื่นๆ ของบ้าน
จากความมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้อีก 13 ปีต่อมาในปี พศ. 2529 บ.แลนด์ฯ ส่งแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับบนสุดในนาม ลดาวัลย์ ลงสู่ตลาดในลักษณะของบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่พร้อมอยู่ โดยเริ่มต้นโครงการแรกที่ย่านบางนา ไล่เรียงเรื่อยไปหลายทำเลที่เป็น Prime Location อาทิ ย่านปิ่นเกล้า รังสิต พุทธมณฑล รามอินทรา ฯลฯ กว่า 14 โครงการ จนถึงโครงการเปิดตัวล่าสุด คือ ลดาวัลย์ พระราม 2 ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้การดูแลของ บ.แลนด์ฯ อีกหนึ่งโครงการ ท่ีเราขอนำมาพูดถึงอย่างเป็นทางการในคราวนี้พร้อมๆ กับวาระครบรอบ 30 ปี ของการเติบโตที่มีพัฒนาการในทุกด้านของบ้านแบรนด์ “ลดาวัลย์” จากแลนด์ฯ
บ้านแบรนด์ “ลดาวัลย์” ถูกการันตีว่าจะเป็นอาณาจักรแห่งการอยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ที่ผู้ครอบครองไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้ที่ข้ามผ่านการประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ หากแต่เป็นผู้ที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จสู่คนรุ่นถัดไป เป็นผู้ที่มองหาความสมบูรณ์แบบในทุกด้านของชีวิต จากนั้นจึงใช้เหตุผลแห่งความพอใจในการตัดสินเลือกลงหลักปักฐานในที่ที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด มิใช่แค่ราคาคุ้มค่าที่สุด ทำให้แบรนด์ ลดาวัลย์ กำหนดแนวคิดของโครงการไว้ว่า “ที่สุดแห่งคุณค่า…บนถนนพระราม 2 เพื่อเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่สะท้อนความมั่งคั่ง รุ่งเรือง อย่างไม่รู้จบ” ตอบสนองต่อกลุ่มที่ไม่มองฟังก์ชั่นบวกขนาดบวกกับราคาอีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อกล่าวเช่นนี้ ทำให้มองเห็นได้เลาๆ เลยว่ากลุ่มผู้อยู่อาศัยในบ้านแบรนด์ “ลดาวัลย์” เป็นกลุ่มที่ต้องการพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งตัวตน สถานะทางสังคม การเงิน และความสำเร็จมากกว่าเป็นแค่บ้านสำหรับการอยู่อาศัย แต่ บ้านที่คนกลุ่มนี้เลือกต้องเป็นอาณาจักรส่วนตัวของตนเองและสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจนฯ เช่น กลุ่มของประธานบริหารบริษัทมหาชนต่างๆ เจ้าสัว ทายาทธุรกิจพันล้านฯ ซึ่งสามารถมองข้ามเรื่องราคาของบ้านไปได้เลย แล้วหยุดไว้แต่เพียงว่า “ฉันพอใจ”
ห้องเอนกประสงค์ที่จัดสรรพื้นที่ไว้ให้เป็นได้ทั้งห้องผู้สูงอายุ หรือห้องสันทนาได้อีกห้องหนึ่ง
อย่างที่กล่าวว่าทุกองค์ประกอบภายใต้ชื่อแบรนด์ ลดาวัลย์ พระราม 2 คือคุณค่าแห่งการใช้ชีวิต และก่อนจะเจาะลึกเข้าสู่การอยู่อาศัยที่สุดแสนจะไพรเวท เราขอมาดูเรื่องนอกบ้านกับการใช้ชีวิตบนทำเลพระราม 2 ที่อาจดูเหมือนไกล แต่มีนัยยะของทำเลศักยภาพที่การันตีได้ว่าทุกโครงการภายใต้ชื่อแบรนด์ ลดาวัลย์ คือทำเลที่เพรียบพร้อมเรื่องการคมนาคมเป็น Prime Location จริงๆ เช่นกันกับทำเลบนถนนพระราม 2 ด้วยศักยภาพของทำเลที่โดดเด่นบนถนนสายหลักของพระราม 2 ตัวโครงการขนาด 82 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนน Main Road ในตำแหน่งที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งทางด่วนจากถนนพระราม 2 เชื่อมตรงเข้าสู่กลางเมืองย่านธุรกิจ สาทร สีลม หรือหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในเมือง ด้วยถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก) สู่เพชรเกษม ปิ่นเกล้าหรือถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ด้านใต้) สู่บางนา-สุวรรณภูมิ กลายเป็นปัจจัยความสะดวกของการเดินทางอย่างเชื่อมต่อที่ถือเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ที่เราสังเกตุเห็นได้จากทุกโครงการของแบรนด์ ลดาวัลย์ ที่เลือกปักธงลงบนทำเลศักยภาพเท่านั้น
Design & Style
แน่นอนว่าเมื่อมองถึงกลุ่มผู้บริโภคของแบรนด์ “ลดาวัลย์” ย่อมไม่ใช่กลุ่มที่มองเรื่องราคาเป็นอันดับแรก หากแต่มองที่ความพึงพอใจและความมีคุณค่าอย่างที่สุด องค์ประกอบทุกด้านของการอยู่อาศัยจึงต้องตอบโจทย์ได้ครบในเรื่องภาพลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงย่างก้าวสุดท้ายของวันขึ้นสู่เตียงนอนในพื้นที่ส่วนตัวที่สุดยังคงต้องเป็นที่ที่พิเศษที่สุด
ทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านออกแบบ Archways เป็นซุ้มประตูสูงเหมือนการเดินเข้าชมปราสาท อีกสัญลักษณ์ของบ้านสไตล์นี้ ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความเป็นทางการที่สง่างาม ก่อนจะแยกตัวสู่ฟังก์ชั่นต่างๆ ของบ้าน
เริ่มต้นจากลุคของหน้าโครงการ ที่ต้องทำหน้าเป็นเสมือนหน้าบ้านของทุกคนที่อาศัยภายในแบรนด์ ลดาวัลย์ พระราม 2 การออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนมีเพียงเราเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ เปิดเส้นทางเข้าสู่ภายในแบบโอ่อ่าด้วยถนนทางเข้าโครงการปูหินบล็อก ที่ให้ความรู้สึกของผิวขรุขระเพียงเล็กน้อยแต่สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากถนนนอกโครงการ ซึ่งก็เป็นการดึงรูปลักษณ์ถนนแบบยุโรปเข้ามาผสมในการออกแบบ แบ่งช่องทางเข้าออกด้วยรูปปั้น Bronze ฝูงม้า 9 ตัว ในสไตล์ยุโรป ที่เป็นทั้งตัวแทนความหมายดีๆ ของการอยู่อาศัย ที่หมายถึงชัยชนะ ความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งไม่สิ้นสุดและเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของแบรนด์ลดาวัลย์ เป็นภาพคุ้นชินของผู้ที่ผ่านไป- มาก็จะเห็นฝูงม้าในลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละทำเล ที่อาจทำให้บางครั้งก็อดนึกไปถึงว่าคนที่อยู่อาศัยในบ้านหลังฝูงม้าเหล่านี้คือใครกันนะ ก่อนจะผ่านเข้้าสู่ประตูชั้นที่หนึ่ง คนนอกอย่างเราก็ต้องทำการแสดงตัวตนให้ชัดเจนว่ามาเยี่ยมเยือนเจ้าของบ้านท่านใด ก่อนจะได้รับการอนุญาตจากนายทวารให้เข้าสู่ความโอ่อ่าชั้นในผ่านประตูชั้นที่สอง เพื่อเข้าสู่พื้นที่ของตัวบ้านที่เน้นการอารักขาอย่างเด็ดขาด อันนี้เว้นไว้สำหรับกรณีแขกคนสนิทที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านแล้วเท่านั้นที่จะผ่านประตูชั้นที่สองไปได้ ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัย (Double Gate Security) สำหรับอาณาจักรแห่งนี้ เพราะหากไม่ใช่แขกสนิทก็จะได้รับการรับรองอยู่แต่เพียงส่วนหน้าที่บริเวณคลับเฮ้าท์หรูริมทะเลสาปอย่าง De Corazon Club House และห้องรับรองแบบ Private Lounge เท่านั้น
Private Lounge สำหรับใช้ต้อนรับแขกอย่างเป็นทางการที่บริเวณ De Corazon Club House
Function
ในฐานะแขกรับเชิญอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ทำให้เราสามารถผ่านประตูชั้นที่สองได้อย่างไม่เขอะเขิน เพื่อเข้าเยี่ยมชมอาณาจักรสุดหรูอย่างถ้วนทั่วตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงห้องนอน จากภาพแรกที่บริเวณหน้าโครงการได้ชี้นำการออกแบบไปสู่งานออกแบบสไตล์ยุโรป ซึ่งเป็นแนวทางดีไซน์สไตล์ของแบรนด์ลดาวัลย์ตั้งแต่เริ่มแรกที่มักเป็นแบบบ้านในสไตล์ตะวันตก เน้นความโอ่อ่า หรูหรา มีรสนิยม ส่วนหน่ึงก็เพื่อตอบโจทย์ความคุ้นชินของผู้ที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนไปพร้อมกันด้วย ลักษณะดีไซน์ของบ้านในแบรนด์ลดาวัลย์จึงเป็นบ้านสไตล์ยุโรปที่แตกต่างตามความนิยมในแต่ละช่วงเวลามาตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปัจจุบัน เมื่อมาถึงโครงการ ลดาวัลย์ พระราม 2 งานดีไซน์ของตัวบ้านถูกเลือกใช้แบบยุโรปสไตล์ Spanish Mediterranean โดยดึงเอาลักษณะเด่นของสไตล์ที่แท้จริงมาสร้างเป็นบรรยากาศให้เกิดขึ้นจริงตั้งแต่หน้าประตู ซึ่งสิ่งแรกที่เราเห็นคือที่จอดรถขนาดใหญ่ ที่สามารถจอดรถได้มากกว่า 6 คน ซึ่งก็อาจจะไม่พอสำหรับบ้านในระดับนี้ด้วยซ้ำ เมื่อย่างเข้าสู่ตัวบ้าน งานออกแบบก็ต้อนรับเราด้วย Archways ซุ้มทางเข้าแบบโค้งสูง ประดับด้วยแชนเดอร์เรียแบบโมเดิร์นคลาสสิค นำทางเราไปสู่ส่วนห้องรับแขก ที่เปิดพื้นที่เพดานสูงแบบ Double Volume เน้นให้เกิดความโอ่อ่าและมีพลัง สำหรับนั่งพักผ่อนหรือรอการต้อนรับทักทายจากเจ้าของบ้าน
ณ จุดนี้เมื่อเราอยู่ในห้องรับรองที่ส่วนหน้าบ้าน จะทำให้เห็นการวางแปลนของบ้านในลักษณะตัว U ที่โอบล้อม Courtyard ที่เป็นสระน้ำว่ายน้ำไว้ภายในให้ลับสายตาจากภายนอก ส่วนภายในตัว U เรียงลำดับความสำคัญเป็นห้องรับรองด้านหน้า โถงกลางที่เป็นส่วนของ Formal Dining Room แบบ Double Volume แล้ววกกลับไปที่อีกด้านของตัว U คือห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับใช้งานเป็นห้องโฮมเธียร์เตอร์หรือห้องผู้สูงอายุได้ เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนหลายเจนฯในบ้านเดียวกัน ซึ่งข้อแตกต่างของบ้านในระดับนี้คือห้องผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ชั้นหนึ่งเท่านั้น เพราะมีองค์ประกอบในเรื่องของลิฟท์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแม้จะเป็นบ้านขนาดเพียง 3 ชั้นก็ตาม
โถงบันไดตกแต่งด้วยแชนเดอร์เรียคริสตัลขนาดเต็มความสูงของบันได ตกแต่งราวบันได้ด้วยเหล็ก Iron Hard ดัดลวดลายแบบอิตาลีแท้ๆ ส่วนทรงบันไดเป็นแบบบันไดวนท่ีหากเดินขึ้นก็เหนื่อยแรงน้อยกว่าบันไดธรรมดา แต่ที่สำคัญดูหรูหรากว่า
ภายในบ้านสไตล์ Spanish Mediterranean ถูกแบ่งการใช้งานตามฟังก์ชั่นไว้ 3 ชั้น ซึ่งพื้นที่ชั้นหนึ่งถูกจัดสรรไว้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน ส่วนชั้นสองและชั้นสามคือพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน โดยแบ่งระดับความสำคัญให้ผู้เป็นเจ้าบ้านไว้ที่บริเวณชั้นสาม ในลักษณะการออกแบบให้เป็นห้อง Penthouse ส่วนตัว ไม่ถูกรบกวนจากการใช้งานในส่วนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง ทำให้พื้นที่ชั้นสามมีเฉพาะห้อง Master Bedroom ที่ต้องบอกว่าเป็นมาสเตอร์จริง ๆ ด้วยการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือด้านหน้าสุดที่มองเห็นวิวของหน้าบ้าน ออกแบบให้เป็นห้องอเนกประสงค์ส่วนตัว ที่ปรับใช้เป็นห้องทำงาน ห้องแกลลอรี่สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมที่จะเก็บไว้ใน walkin closet ก็คงจะไม่พอ ส่วนกลางคือพื้นที่ของ Bedroom ที่มองเห็นวิวหลักเป็น courtyard และพื้นที่ด้านในสุดจัดสรรไว้สำหรับ walkin closet และ MasterBathroom ที่ถูกแบ่งออกเป็นสองชั้น คือส่วนของ Freestanding Bathtub และส่วนของการทำธุระส่วนตัวที่แยกออกเป็นสองฝั่งให้สามารถใช้งานส่วนตัวได้พร้อมกัน ซึ่งฟังก์ชั่นแบบนี้อาจไม่ได้เหมาะกับการผู้ใช้ทุกคน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความหรูหราฟังก์ชั่นนี้ตอบโจทย์ได้คะแนนไปเต็มๆ
จากฟังก์ชั่นภายในเราจะเห็นได้ว่าเป็นการออกแบบโดยเน้นการอยู่อาศัยอย่างเป็นส่วนตัว แต่ละส่วนของห้องพักจะไม่มารบกวนกัน ตอบโจทย์อีกข้อของการอยู่อาศัยหลายเจนฯในบ้านหนึ่งหลัง และแล้วก็ได้เวลาออกมาชื่นชมกับงานสถาปัตยกรรมภายนอกบ้าง อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าแปลนบ้านถูกออกแบบในลักษณะของตัว U ที่โอบล้อม courtyard และสระว่ายน้ำไว้ เป็นลักษณะของการเชื่อมต่อความสัมพันธ์แบบ inside-out และ outside-in ซึ่งเมื่อออกมานอกบ้านก็สามารถเห็นความเคลื่อนไหวและมุมมองที่ภายในบ้าน โดยภายนอกหรือบริเวณที่เป็น courtyard ได้ดึงงานออกแบบตามสไตล์ต้นฉบับ Spanish Mediterranean ให้มีสระว่ายน้ำและ Porch & Patio เป็นเฉลียงพักผ่อนแบบเอาท์ดอร์ ที่มีสวนสไตล์ยุโรปโอบล้อมตัวบ้านทั้งหมดไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมองจากภายนอกบ้านก็ไม่สามารถมองเห็นกิจกรรมการอยู่อาศัยที่ภายในได้เลย สิ่งที่ผู้อยู่นอกบ้านจะเห็นก็จะเป็นความงามทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรปเท่านั้น เรียกได้ว่า ลดาวัลย์ พระราม 2 เป็นอาณาจักรแห่งการอยู่อาศัยระดับลักชัวรี่อย่างแท้จริง